เรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่ใครหลายคนต้องมีประสบการณ์เจอกันมาบ้างเมื่อสูบพอต หรือบุหรี่ไฟฟ้าแล้วรู้สึกแสบคอ ซึ่งถ้ากำลังเป็นเช่นนี้อยู่ต้องรีบหยุด แล้วเริ่มต้นหาสาเหตุ พร้อมการแก้ปัญหาที่ถูกต้องได้เลย ไม่อย่างนั้นจะเป็นอันตรายต่อผู้สูบเองได้ ว่าแต่จะแก้ปัญหาอย่างไรดีเมื่อสูบพอตแล้วรู้สึกแสบคอ? นี่คงเป็นคำถามที่คำตอบได้รวบรวมไว้แล้วในบทความนนี้
บางครั้งการที่เราสูบพอต หรือบุหรี่ไฟฟ้าแล้วเกิดแสบคอสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลได้ก็คือคอยล์ไหม้ ที่ตรงคอยล์ หรือสำลีเกิดไหม้ขึ้นมา และไม่สามารถดูดซับเอาน้ำยาเข้าสำลีได้อีกต่อไป และเมื่อเราได้กดจ่ายไฟ หรือมีการยิงไฟไปที่ขดลวดเพื่อส่งความร้อนให้ ก็จะไปถูกสำลีโดยตรง เกิดเป็นควันที่ไม่ได้มาจากน้ำยาระเหย แต่เป็นตัวสำลี จึงทำให้เรารู้สึกแสบคอได้นั่นเอง วิธีการแก้ปัญหาหากเกิดที่สำลีแบบนี้
การสังเกตอีกอย่างก็คือการดูที่สีของสำลี ดูว่าดำไหม คล้ำไหม ถ้าคอยล์เริ่มไหม้ก็จะมีลักษณะดำ และคล้ำ หรืออีกอย่างคือสีของน้ำยาที่เคยขาว ใส กลับดำ ขุ่นมัว ก็ต้องเปลี่ยนก่อนไม่อย่างนั้นสูบไปแสบคอแน่
ปริมาณน้ำยานิโคตินที่เราต้องเติมในพอต หรือบุหรี่ไฟฟ้านั้นก็สำคัญเช่นกัน ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะมีให้เลือกใช้งาน 2 ประเภท คือซอลนิก และฟรีเบสโดยที่เลือกใช้น้ำยาควรต้องถูกประเภทเพราะส่งผลต่อการสูบได้ดี ซึ่งปกติแล้วน้ำยาซอนิกจะใช้นิโคติน 24 – 50 mg. ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงมาก เมื่อเทียบกับน้ำยาฟรีเบสที่ปริมาณน้ำยานิโคตินจะอยู่ที่ 0 – 12 mg. ดังนั้น เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานจึงควรเลือกน้ำยาที่สัมพันธ์กับคอยล์ และตั้งค่าโอห์มให้เหมาะสมด้วย คือ 0.6 ขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งอาการแสบคอมีโอกาสเกิดจากการที่เราใช้น้ำยาปริมาณมากเกินไปนั่นเอง ดังนั้น ถ้าจะแก้ก็ต้องลดปริมาณนิโคติน หรือเปลี่ยนประเภทน้ำยา (แนะนำพอตใช้แล้วทิ้งสูบไม่เจ็บคอ)
จะเห็นได้เลยว่าการที่เราเข้าใจถึงสาเหตุการทำให้เกิดอาการแสบคอเมื่อสูบพอต หรือบุหรี่ไฟฟ้า ก็ส่งผลต่อการแก้ปัญหาที่ถูกต้องเหมาะสม เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หวังว่าใครที่กำลังประสบปัญหาแสบคอด้วยการสูบพอตจะสังเกตถึงสาเหตุที่แท้จริง พร้อมแก้ไขปรับเปลี่ยนได้ทันท่วงที ลดปัญหาการแสบคอ และการรับสารนิโคตินเข้าสู่ร่างกายจะเป็นเรื่องง่าย และปลอดภัยมากขึ้น